จัดขึ้นวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2568 เวลา 09.00-16.00 น.

ณ ห้องประชุมจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ชั้น 2 อาคาร วช. 1 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ

ในระบอบประชาธิปไตย การให้ประชาชนมีโอกาสกว้างขวางในการได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดำเนินการต่าง ๆ ของรัฐเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อที่ประชาชนจะสามารถแสดงความคิดเห็นและใช้สิทธิทางการเมืองได้โดยถูกต้องกับความเป็นจริง และมีสิทธิได้รู้ข้อมูลข่าวสารของราชการ โดยมีข้อยกเว้นที่ไม่ต้องเปิดเผยแจ้งชัด และจำกัดเฉพาะข้อมูลข่าวสารที่หากเปิดเผยแล้วจะเกิดความเสียหายต่อประเทศชาติหรือประโยชน์ที่สำคัญของเอกชน เพื่อพัฒนาระบอบประชาธิปไตยให้มั่นคงและจะยังให้ประชาชนมีโอกาสรู้ถึงสิทธิหน้าที่ของตนอย่างเต็มที่ ให้สอดคล้องตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540

เพื่อคุ้มครองสิทธิส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลข่าวสารของราชการ ตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 หรือกฎหมายข้อมูลข่าวสารของราชการ มีเจตนารมณ์ที่ต้องการให้ประชาชนมีโอกาสอย่างกว้างขวางในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดำเนินการต่าง ๆ ของรัฐเพื่อประชาชนจะสามารถแสดงความคิดเห็นและใช้สิทธิ์ทางการเมืองได้ถูกต้อง ตรงกับความเป็นจริง เป็นการพัฒนาระบอบประชาธิปไตยให้มั่นคง ประชาชนมีโอกาสรู้ถึงสิทธิและหน้าที่ของตนอย่างเต็มที่ ส่งเสริมให้การบริหารงานของภาครัฐเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใส ว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการ ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยสร้างความรู้ ความเข้าใจบทบาทหน้าที่ในการปฏิบัติราชการตามระบบการบริหารจัดการภาครัฐที่ดีของบุคลากรภาครัฐ และสอดคล้องกับแนวทางการขับเคลื่อนของคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารราชการของสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ

เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง และเข้าถึงเกี่ยวกับพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 ดำเนินการตามแนวทางศูนย์ข้อมูลข่าวสารโดดเด่น ปี 2568 ในการเผยแพร่ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 ในปีงบประมาณปัจจุบันแก่บุคลากรในองค์กร กลุ่มทรัพยากรบุคคล (ทบ.) จึงกำหนดให้มีโครงการอบรม “การเข้าใจพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540” ประจำปี พ.ศ. 2568 เพื่อให้ข้าราชการบรรจุใหม่ และบุคลากร วช. เข้าใจในสิทธิของตนเองในฐานะของประชาชน และบุคลากรของรัฐ ในการนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้
ได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม เพื่อขับเคลื่อนองค์กรสู่ศูนย์ข้อมูลข่าวสารของราชการโดดเด่น

บรรยายโดยท่านวิทยากร ว่าที่ร้อยตรีสุระชัย เอนกรัตน์ นิติกรชำนาญการพิเศษ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี